โครงการอ่าน-เขียน-พูดดีมีเงินออม
วิธีการ/ขั้นตอนการแก้ปัญหาหรือพัฒนา
1. เขียนกิจกรรมนำเสนอในที่ประชุมวิชาการและขออนุมัติกิจกรรม
2. แจ้งรายละเอียดกิจกรรมให้ครูและนักเรียนรับทราบ
3. คัดกรองนักเรียนเรื่องการอ่าน-เขียนทุกชั้น
4. แก้ไขและพัฒนานักเรียนเป็นช่วงชั้น ช่วงชั้นที่ 1 (ชั้น ป.1-3 ) ช่วงชั้นที่ 2 (ชั้นป.4-6)ช่วงชั้นที่ 3 (ชั้น ม.1-3)
5. แต่ละช่วงชั้นแบ่งกลุ่มนักเรียนตามความสามารถของนักเรียน จากครูวินิจฉัย
กลุ่มที่ 1 อ่าน-เขียนไม่ได้ /กลุ่มที่ 2 อ่าน - เขียนไม่คล่อง/กลุ่มที่ 3 อ่านเขียนได้คล่อง
6. ครูประจำชั้นศึกษาเด็กเป็นรายบุคคลคนในแต่ละชั้นเรียนที่รับผิดชอบ
7. การจัดทำสื่อและนวัตกรรมเพื่อนำมาแก้ไขและพัฒนาผู้เรียน เช่น แบบฝึกอ่านสะกด
และเขียนคำแบบฝึกอ่านแจกลูก แบบฝึกอ่าน แบบอ่านประโยคและอ่านเนื้อเรื่อง
และ เขียนสะกดคำยาก เขียนตามคำบอก การอ่านและเขียนร้อยกรอง การท่องอาขยาน
8. สำรวจความบกพร่องของนักเรียนเป็นรายบุคคล จะต้องให้การแก้ไขและพัฒนาให้เหมาะสม
9. จัดกิจกรรมที่หลากหลาย ตามความสนใจ ตามความถนัด เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศ
10. ฝ่ายวิชาการจัดตารางเวลาเรียนเพื่อเอื้อต่อการทำกิจกรรมและให้เหมาะสมกับช่วงชั้น
11. จัดห้องเรียนให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่จะพัฒนานักเรียนแต่ละกลุ่ม
- ห้องเรียน นักเรียนอ่าน-เขียนไม่ได้
- ห้องเรียน นักเรียนอ่าน – เขียนไม่คล่อง
- ห้องเรียน นักเรียนอ่านคล่อง-เขียนคล่อง
12. ในแต่ละห้องจะมีครูอยู่ประจำห้องๆละ 2-3 คน เพื่อร่วมกันแก้ไขและพัฒนานักเรียน
13. นักเรียนเข้าเรียนตามตารางที่แจ้งไว้กับครูประจำชั้น
14. จัดทำเครื่องมือในการทดสอบความรู้ของนักเรียนที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
15. ทดสอบและเก็บข้อมูล เพื่อดูพัฒนาการของนักเรียน สรุปผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินโครงการ
1. นักเรียนอ่านคล่อง-เขียนคล่อง
2. นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารกับผู้อื่นได้ดี
3. นักเรียนใช้ภาษาไทยเป็นพื้นฐานในการเรียนรู้วิชาอื่นได้เป็นอย่างดี
4. นักเรียนใช้ทักษะภาษาไทยเป็นเครื่องมือแสวงหาความรู้
5. นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน
6. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทยดีขึ้น